อาเซียน
หรือ ASEAN (The
Association of Southeast Asian Nations – สมาคมประชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
คือการรวมตัวของประเทศสมาชิกที่อยู่ในพื้นที่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวน 10 ประเทศ อันได้แก่
ประเทศไทยประเทศอินโดนีเซีย ประเทศสิงคโปร์ ประเทศบรูไน ประเทศพม่า ประเทศลาว
ประเทศเวียดนาม ประเทศมาเลเซียประเทศกัมพูชา และประเทศฟิลิปปินส์
โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
ทุกประเทศในอาเซียนมีเมืองหลวงเช่นเดียวกับประเทศต่างๆทั่วโลก
วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเมืองหลวงอาเซียนทั้ง 10 เมือง
10 ประเทศกันครับ…
เมืองหลวงอาเซียน
ทั้ง 10 ประเทศ มีดังนี้
1. ประเทศไทย
เมืองหลวงคือ กรุงเทพมหานคร (Bangkok)

กรุงเทพมหานครตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทยบริเวณใกล้ปากแม่น้ำเจ้าพระยา
มีพื้นที่ราว 1,569 ตารางกิโลเมตร มีคนอาศัยอยู่มากกว่า 10 ล้านคน
(ทั้งแบบตามทะเบียนบ้านและแบบแรงงานย้ายถิ่น)
กรุงเทพมหานครได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเมืองหลวงของไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2325 โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 แห่งบรมราชจักรีวงศ์ โดยย้ายเมืองหลวงมาจากกรุงธนบุรี
ซึ่งอยู่ฟากตรงข้าม มีแม่น้ำเจ้าพระยากั้นกลาง เนื่องจากกรุงเทพมหานคร
(ชื่อเดิมคือจังหวัดพระนคร) มีชัยภูมิที่ดีกว่า
ง่ายต่อการรักษาพระนครในกรณีถูกข้าศึกรุกราน
ปัจจุบันกรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน การบริหาราชการแผ่นดิน
การเมืองการปกครองของประเทศไทย และยังแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกด้วย
กรุงเทพมหานครมีผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้บริหารสูงสุด
2. ประเทศอินโดนีเซีย เมืองหลวงคือ
กรุงจาการ์ตา (Jakarta)

กรุงจาร์กาตาเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศอินโดนีเซีย
เดิมชื่อว่าเมืองบาตาเวีย (Batavia)
ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะชวา
มีพื้นที่ประมาณ 720 ตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 13 ล้านคน ซึ่งนับว่าค่อนข้างหนาแน่น
มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บริหารสูงสุดเช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร
เป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงาม
กรุงจาร์กาตาเป็นศูนย์กลางในทุกๆด้านของประเทศอินโดนีเซีย ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ
การเมืองการปกครอง แหล่งการศึกษา และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศอีกด้วย
3. ประเทศสิงคโปร์ เมืองหลวงคือ
สิงคโปร์ (Singapore)

ประเทศสิงคโปร์ไม่มีเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ
โดยใช้พื้นที่ทั้งประเทศเป็นเมืองหลวงเนื่องจากเป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็ก
ตั้งอยู่บริเวณปลายแหลมมาลายู มีเนื้อที่เพียง 697 ตารางกิโลเมตร ประชากรราว 5,300,000 คน
สิงคโปร์ถึงแม้จะไม่มีทรัพยากรอะไรเลย แต่ก็นับได้ว่าเป็นประเทศที่มีความเจริญเป็นอย่างมาก
โดยเป็นศูนย์ทางด้านเศรษฐกิจ การเงินและการลงทุนของภูมิภาค
และถึงแม้จะเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่ก็มีบริษัทต่างชาติมาตั้งสำนักงานจำนวนมากมาย
มีสนามบินและระบบขนส่งภายในประเทศที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค
ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้สูง
มีแหล่งท่องเที่ยวมีเป็นจุดดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกมากมาย
4. ประเทศบรูไน เมืองหลวงคือ กรุงบันดา เสรี เบกาวัน (Bandar Seri
Begawan)

กรุงบันดา เสรี เบกาวัน
อยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศบรูไน
โดยเป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองท่าที่สำคัญที่สุดของประเทศ
เป็นเมืองหลวงที่มีเนื้อที่ขนาดเล็กมีเนื้อที่เพียง 100 ตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 100,000 คน ในสมัยการล่าอาณานิคมของประเทศฝั่งยุโรป
เมืองนี้เคยตกอยู่ใต้การยึดครองของประเทศอังกฤษ โดยถูกเรียกว่าเมืองบรูไน
ก่อนจะกลับมาใช่ชื่อ บันดา เสรี เบกาวัน ภายหลังจากได้รับเอกราชจากอังกฤษแล้ว
5. ประเทศพม่า เมืองหลวงคือ
กรุงเนปิดอว์ (Naypyidaw)

กรุงเนปิดอว์ถูกสถานปนาขึ้นเป็นเมืองหลวงใหม่ของประเทศพม่าหรือเมียร์นม่าแทนกรุงย่างกุ้งที่เป็นเมืองหลวงเก่ามาอย่างยาวนาน
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2549
โดยพลเอกอาวุโสตาน ฉ่วย ผู้นำสูงสุดในขณะนั้น
ด้วยเหตุผลหลักในด้านการบริหารประเทศได้ง่ายขึ้น
เนื่องจากกรุงเนปิดอว์ตั้งอยู่ตรงกลางของประเทศพอดี
ปัจจุบันกรุงเนปิดอว์ยังอยู่ในช่วงของการสร้างเมือง ถนนหนทาง แหล่งธุรกิจ โรงแรม
ไม่ยังเสร็จสมบูรณ์นัก แต่ด้วยเหตุที่พม่าเพิ่งเปิดประเทศ
(หลังจากปิดประเทศมาตั้งแต่สมัยทหารเข้ายึดอำนาจการปกครอง)
จึงสามารถกล่าวได้ว่าในประเทศพม่านั้น ถนนทุกสาย นักลงทุนจากทั่วโลก
กำลังมุ่งไปสู่กรุงเนปิดอว์ทั้งสิ้น
6. ประเทศลาว เมืองหลวงคือ
กรุงเวียงจันทน์ (Vientiane)

เวียงจันทน์ หรือ นครหลวงเวียงจันทน์
ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศลาวในเขตลุ่มแม่น้ำโขง
โดยอยู่ติดกับจังหวัดหนองคายของประเทศไทย
เวียงจันทน์เป็นเมืองโบราณมีอายุมากกว่าหนึ่งพันปี
โดยสถาปนาเป็นเมืองหลวงตั้งแต่สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชในราวพุทธศตวรรษที่ 15 เวียงจันทน์เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญที่สุดของประเทศลาว มีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุด
โดยมีประชากรราว 700,000 คน โดยในยุคการล่าอาณานิคม
เวียงจันทน์เคยตกอยู่ภายใต้การยึดครองของประเทศฝรั่งเศส
7. ประเทศเวียดนาม เมืองหลวงคือ
กรุงฮานอย (Ha Noi)

ฮานอยเดิมเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามเหนือ
เมื่อเวียดนามเหนือได้รับชัยชนะในสงครามเวียดนามและได้รวมเวียดนามใต้เข้าเป็นส่วนหนึ่งแล้ว
จึงสถาปนาให้ฮานอยเป็นเมืองหลวงของประเทศ (เดิมเมืองหลวงของเวียดนามใต้คือไซง่อน
หรือเมืองโฮจิมินห์ในปัจจุบัน)
กรุงฮานอยก็เช่นเดียวกับเมืองหลวงอื่นๆในอาเซียนที่เป็นเมืองใหญ่และเมืองสำคัญที่สุดของประเทศ
เป็นศูยน์กลางการเมืองการปกครองของประเทศ แต่ในประเทศเวียดนามนั้น
เมืองที่ใหญ่ที่สุดในด้านการค้า การลงทุน การอุตสาหกรรมและการขนส่งทางทะเลคือเมืองโฮจิมินห์
(Ho Chi Minh) ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศ
8. ประเทศมาเลเซีย เมืองหลวงคือ
กรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur)

กรุงกัวลาลัมเปอร์เมืองหลวงของประเทศมาเลเซียนั้นตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศ (ใกล้ฝั่งทะเลอันดามัน) เป็นเมืองใหญ่และสำคัญที่สุดของประเทศ มีพื้นที่ 94 ตารางไมล์ หรือ 243 ตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 1.6 ล้านคน
ถึงแม้จะมีการย้ายศูนย์การบริหารประเทศไปที่เมืองปุตราจายาแล้ว
แต่ส่วนอื่นๆที่สำคัญของประเทศยังอยู่ที่เดิม
โดยปกติแล้วชาวมาเลเซียจะเรียกกรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า “เคแอล, KL” ซึ่งเป็นตัวย่อของ Kuala
Lumpur นั่นเอง
9. ประเทศกัมพูชา เมืองหลวงคือ
กรุงพนมเปญ (Phnom Penh)

กรุงพนมเปญเมืองหลวงของประเทศกัมพูชา
มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ราชธานีพนมเปญ ตั้งอยู่ทางตอนกลาง
(ค่อนไปทางใต้ของประเทศ) มีเนื้อที่ 678 ตารางกิโลเมตร มีประชากรหนาแน่นราว 2,000,000 คน พนมเปญถือว่าเป็นเมืองใหญ่และสำคัญที่สุดของประเทศกัมพูชาเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองและการบริหารราชการแผ่นดิน
รวมถึงการลงทุนจากต่างประเทศ
ในยุคล่าอาณานิคมพนมเปญตกอยู่ภายใต้การยึดครองของฝรั่งเศสและได้รับเอกราชเมื่อปี
ค.ศ. 1953
10. ประเทศฟิลิปปินส์ เมืองหลวงคือ
กรุงมะนิลา (Manila)

กรุงมะนิลาเมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของเกาะลูซอน
ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของประเทศ (จากจำนวนมากกว่า 7,000
เกาะ)
เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว การศึกษา
และการอุตสหากรรมของประเทศ ตัวเมืองของกรุงมะนิลามีเนื้อที่เพียง 39 ตารางกิโลเมตร แต่มีประชากรมากถึง 1.7 ล้านคน
แต่ถ้านับชานเมืองด้วยจะมีเนื้อที่ 1,475 ตารางกิโลเมตร
แต่จะมีประชากรมากถึง 22 ล้านคน
ซึ่งนับว่ามีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นมาก ในสมัยการล่าอาณานิคม
กรุงมะนิลาตกอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศสเปนและอยู่ภายใต้การดูแลของประเทศสหรัฐอเมริการวม
400 ปี